Category: knowledge

  • “คนละครึ่งพลัส” คืออะไร? สิทธิประโยชน์ใหม่ที่คนไทยต้องรู้!

    “คนละครึ่งพลัส” คืออะไร? สิทธิประโยชน์ใหม่ที่คนไทยต้องรู้!

    รัฐบาลได้เปิดตัวโครงการ “คนละครึ่งพลัส” ซึ่งเป็นโครงการต่อยอดจาก “คนละครึ่ง” เดิม เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย โครงการนี้มีรายละเอียดและสิทธิประโยชน์ที่น่าสนใจมากขึ้น เรามาดูกันว่า “คนละครึ่งพลัส” มีอะไรที่แตกต่างและคุณจะได้ประโยชน์อย่างไรบ้าง 💡 “คนละครึ่งพลัส” คืออะไร? “คนละครึ่งพลัส” คือโครงการที่ภาครัฐร่วมจ่ายค่าสินค้าและบริการให้กับประชาชน 50% โดยกำหนดวงเงินการใช้จ่าย ไม่เกิน 200 บาทต่อคนต่อวัน ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” และมีสิทธิประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นจากโครงการเดิม โดยเฉพาะการแบ่งวงเงินตามสถานะการยื่นภาษี 👥 ใครมีสิทธิเข้าร่วมโครงการ? ผู้มีสิทธิเข้าร่วมโครงการต้องมีคุณสมบัติหลัก ดังนี้: สำหรับผู้ที่เคยเข้าร่วมโครงการคนละครึ่งเดิม จะไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ เพียงแค่ กดยืนยันตัวตนและรับสิทธิ์ ผ่านแอปพลิเคชัน “เป๋าตัง” 💸 วงเงินและสิทธิที่ได้รับ ความแตกต่างที่สำคัญของ “คนละครึ่งพลัส” คือการแบ่งวงเงินสูงสุดตลอดโครงการออกเป็น 2 กลุ่ม: กลุ่มผู้รับสิทธิ์ วงเงินสูงสุดตลอดโครงการ รัฐร่วมจ่ายสูงสุดต่อวัน ประชาชนผู้ยื่นแบบแสดงรายการภาษี* 2,400 บาท ต่อคน 200 บาท ประชาชนผู้ไม่ยื่นแบบแสดงรายการภาษี 2,000 บาท ต่อคน…

  • การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต: “ลงทุนกับสุขภาพการกินอยู่”

    การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดในชีวิต: “ลงทุนกับสุขภาพการกินอยู่”

    ในโลกยุคใหม่ที่ทุกอย่างเร่งรีบ เรามักจะทุ่มเทเวลาและเงินไปกับการลงทุนด้านการเงิน การงาน หรือทรัพย์สิน แต่มี “การลงทุน” อย่างหนึ่งที่ให้ผลตอบแทนสูงที่สุดในระยะยาว ซึ่งคนไทยหลายคนอาจมองข้าม นั่นคือ “การลงทุนกับสุขภาพการกินอยู่” 💰 สุขภาพที่ดีคือ “สินทรัพย์” ที่แท้จริง ลองคิดดูว่าหากคุณมีเงินทองมากมาย แต่ต้องใช้ชีวิตอยู่ในโรงพยาบาล หรือเจ็บป่วยจนทำกิจกรรมที่ชอบไม่ได้… เงินเหล่านั้นก็อาจไม่มีความหมาย การดูแลสุขภาพของเราจึงไม่ใช่แค่ “ค่าใช้จ่าย” แต่คือ “การลงทุน” ที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคภัยไข้เจ็บ (ลดค่ารักษาพยาบาลในอนาคต) และเพิ่มพลังงาน รวมถึงคุณภาพชีวิตให้เราได้ใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ 🍽️ 4 หัวใจสำคัญของการลงทุนด้านการกินอยู่ การลงทุนเรื่องอาหารไม่ได้แปลว่าต้องกินอาหารราคาแพงเสมอไป แต่คือการ “เลือก” อย่างชาญฉลาดตามหลักโภชนาการที่เหมาะสมกับคนไทย 1. ปรับสัดส่วนอาหารให้สมดุล (กินให้ครบ 5 หมู่) คนไทยส่วนใหญ่มักบริโภคข้าว (คาร์โบไฮเดรต) และโปรตีนมากเกินไป แต่ขาดผักและผลไม้ที่มีวิตามินและใยอาหารที่จำเป็นต่อระบบขับถ่าย 2. หลีกเลี่ยง “อาหารขยะ” (กำจัดความเสี่ยง) อาหารแปรรูป, ฟาสต์ฟู้ด, ขนมขบเคี้ยว, และเครื่องดื่มรสหวานจัด คือ “หนี้สิน” ทางสุขภาพที่ต้องรีบกำจัด 3. ดื่มน้ำเปล่าให้เป็นนิสัย…